บ้านเย้าแดงในประเทศจีน红瑶

สาวผมยาวที่หมู่บ้านเย้าแดง
ที่มลฑลกวางสี เมืองหลงเซิ่ง หมู่บ้านหวงลั่วเป็นที่อยู่ของชาวเผ่าเย้าแดง หมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสาวผมยาวที่ยาวเป็นเมตร นอกจากผมยาวแล้วยังเป็นผมที่ดำขลับไม่มีแตกปลายหรือแห้งกรอบให้เจ้าตัวเสียอารมณ์ เรามาดูกันว่าผมดำยาวนั้นจะดำและยาวขนาดไหน
หมู่บ้านเย้าแดงตอนนี้เปิดกว้างให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในเชิงวัฒนธรรมไม่นานมานี้ สาว ๆ ในหมู่บ้านจึงมีข้อตกลงกันว่า ทุก ๆ บ้านที่แม่และลูกสาวอยู่กันครบจะต้องเข้าร่วมการแสดงโชว์ซึ่งการแสดงหลักก็คือการโชว์ผมที่ยาวสลวยของทั้งแม่และลูก เนื่องจากผมที่มีความยาวมาก การหวีผม จัดทรงผมจึงต้องมีผู้ช่วย ดังนั้นแม่และลูกสาวจึงต้องแสดงร่วมกัน
สาว ๆ เพิ่งสระผมเสร็จ เป็นวิธีการหวีผมและโชว์ความยาวของผมให้เห็นชัด ๆ
หมู่บ้านหวงลั่วของเผ่าเย้าแดง ที่มลฑลกวางสี

ความยาวโดยเฉลี่ยของเส้นผมต่อคนอยู่ที่ 1.5 เมตร ซึ่งความสูงของสาวเผ่าเย้าก็อยู่ที่ประมาณ1.5-1.6 เมตร คิดดูว่าผมที่ยาวเท่ากับความสูงของเจ้าของนั้นเวลาต้องสระต้องหวีขึ้นมาจะลำบากแค่ไหน คนที่มีเส้นผมยาวที่สุดขณะนี้คือคุณยายอายุ 73 ปี ซึ่งมีความยาวเส้นผม 2 เมตร แถมยังดำขลับไม่เห็นผมขาวสักเส้น ในชีวิตของสาวเผ่าเย้าจะมีการตัดผมของเพียงแค่ครั้งเดียวคือตอนอายุ 18 ปี แล้วหลังจากนั้นก็จะไว้ผมยาวไปตลอด

ดูแต่เส้นผมที่ทั้งดำทั้งเงา คงจะไม่รู้ว่าเจ้าของเป็นคุณยายอายุ 73 ปีแล้ว
หมู่บ้านนี้เป็นชนเผ่าเย้าแต่ด้วยความที่สาว ๆ ในหมู่บ้านนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดงสดใส จึงเรียกเผ่าเย้าที่อาศัยอยู่ที่นี่ว่า "เย้าแดง" และการที่หมู่บ้านนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเนื่องจากความบังเอิญ มีคนถ่ายภาพนาขั้นบันไดซึ่งอยู่บนยอดเขา ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางมาดูทิวทัศน์นาขั้นบันไดที่อยู่บนเขา พอผ่านหมู่บ้านเย้าแดงที่อยู่ตีนเขา นักท่องเที่ยวทั้งหลายก็ถูกความยาวและดำขลับของเส้นผมของสาวทีนี่ดึงดูดเอาไว้จนกระทั่งสุดท้ายหมู่บ้านนี้ก็เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นมา
 
ภาพถ่ายนาขั้นบันไดบนยอดเขาที่เป็นที่มาของการมาเยี่ยนหมู่บ้านเย้าแดงอย่างไม่ได้ตั้งใจของนักท่องเที่ยว
 
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่เชิงเขาเป็น ซึ่งชาวเย้าแดงตั้งรกรากกันอยู่ที่นี่นานกว่า 400 ปีแล้ว

มาถึงข้อสำคัญว่าทำไมสาวน้อยและสาวมากของหมู่บ้านนี้ถึงได้มีเส้นผมที่ดำสลวยกันเช่นนี้??? ก็เนื่องจากคนที่นี่มีสูตรแชมพูที่ของตนเอง มาจากน้ำซาวข้าวที่หมักจนเกิดปฏิกริยาทางเคมี เปลือกส้มโอ และกากจากเมล็ดชาที่คั้นเอาน้ำมันออกแล้ว นำมาผสมด้วยกัน ต้มให้เดือด นำมาสระผม โดยใช้น้ำแร่จากภูเขา สาวที่นี่ไม่ว่าจะหน้าหนาวหรือหน้าร้อนก็จะใช้น้ำแร่นี้สระผม ไม่ใช้น้ำร้อนสระผมเด็ดขาด
น้ำหมักจากน้ำซาวข้าวมีวิตามินบี ส่วนเปลือกส้มโอ ก็มีวิตามินซี ส่วนเมล็ดชานั้นก็มีคุณสมบัติในการบำรุงเส้นผม ซึ่งแชมพูหลาย ๆ ยี่ห้อก็มีการโฆษณาส่วนผสมตัวนี้ เป็นจุดขาย ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่สาว ๆ ที่นี่จะมีสุขภาพผมดีขนาดนี้ ก็บำรุงกันอย่างเข้มข้นนี่เอง
 
น้ำซาวข้าวที่ผ่านการหมักมาแล้วอาทิตย์หนึ่ง มีกลิ่นเปรี้ยวที่เกิดจากการหมัก จึงจะพร้อมใช้ในการสระผม
 
ทุกบ้านจะต้องเก็บน้ำซาวข้าวเอาไว้ ซึ่งในนี้อุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งมีประโยชน์ต่อเส้นผมอย่างมาก
กากจากเมล็ดชาที่คั้นน้ำมันออกแล้ว นำมาตำให้ละเอียดก่อนจะใส่รวมในหม้อต้มกับน้ำซาวข้าว
ส่วนผสมต่าง ๆ ก็นำลงในหม้อต้มให้เดือด แล้วก็ตักเอาแต่น้ำออกใส่กาละมังเพื่อนำไปสระผมได้แล้ว
สาวเย้าแดงเป็นสาว ๆ ที่ชอบความครึกครื้น เวลาจะสระผมก็มักจะรวมตัวกันสระผม ถ้าอากาศดีก็จะออกไปที่ลำธาร แต่ถ้าวันไหนฝนตก ก็จะรวมตัวกันอยู่ที่สวนหลังบ้าน ผมของสาวเย้าจะมีผมอีกสองมัดที่มัดรวมกับผมจริง สองมัดที่ว่านี้ มัดหนึ่งเป็นผมของเจ้าตัวที่ตัดออกตอนอายุ 18 และมีเศษผมที่ร่วงเวลาหวีก็จะนำมามัดรวมกัน ส่วนอีกมัดหนึ่งอาจจะเป็นของแม่หรือยายที่ตกทอดกันมา การที่นำผมที่ตัดออกมาแล้วมัดรวมกันไว้ ถือเป็นประเพณีที่แสดงความเคารพต่อเส้นผมของชาวเย้าแดง ดังนั้นกว่าจะแกะผมออกมาและเริ่มสระผมกันได้ ก็กินเวลากันเกือบ 2 ชั่วโมงทีเดียว ถ้าอยู่คนเดียวคนจะน่าเบื่อไม่น้อย สู้อยู่ด้วยกันหลาย ๆ คนยังหาเรื่องพูดคุยไปแกะผมกันไปหายเบื่อไปเยอะทีเดียว ผมอีก 2 ช่อที่มัดรวมในผมของสาวเย้า ซึ่งถือเป็นการเคารพต่อเส้นผมและบรรพบุรุษของตนเอง


มีการนำสายวัดมาวัดความยาวของผมในแต่ละครั้งที่สระ เป็นเคล็ดว่าถ้าผมยาวเพิ่มขึ้นก็จะทำให้เจ้าตัวอายุยืนและมีความสุขสมบูรณ์เพิ่มขึ้น สาว ๆ สระผมพร้อมกันที่ลำธารในวันอากาศดีดูแล้วอยากเห็นของจริงกันบ้างหรือเปล่ากับ หมู่บ้านสาวผมยาวเผ่าเย้าแดงที่กวางสี

ขอบคุณข้อมูลจาก http://goo.gl/DssQ36