เมี่ยนที่อาศัยอยู่ใน10จังหวัด44อำเภอ195หมู่บ้านจำนวนหลังคาเรือน9,501หลังคาเรือนประชากรรวม48,357คน(ทำเนียบชุมชนฯ2540,น.37)ชาวเมี่ยนเป็นชนชาติเชื้อสายจีนเดิมชนเผ่านี้เรียกตัวเองว่าเมี่ยนซึ่งแปลว่ามนุษย์มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเย้าถิ่นเดิมของเมี่ยนอยู่ทางตะวันออกของมณฑลไกวเจายูนนานหูหนานและกวางสู
ในประเทศจีนต่อมาการทำมาหากินฝืดเคืองและถูกรบกวนจากชาวจีน
จึงได้อพยพมาทางใต้เข้าสู่เวียดนามเหนือตอนเหนือของลาว
และทางตะวันออกของพม่า บริเวณรัฐเชียงตุง และภาคเหนือของไทย (ขจัดภัย 2538, น.48) ชาวเมี่ยนที่ี่เข้ามาอยู่ในประเทศไท ยอพยพมาจากประเทศลาวและพม่าปัจจุบันมีชาวเมี่ยนอาศัยอยู่มากในจังหวัด เชียงราย พะเยา และน่านรวมทั้งในจังหวัด กำแพงเพชร เชียงใหม่ ตาก เพชรบูรณ์ ลำปาง สุโขทัย
ภาษาเมี่ยนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับภาษาม้งมากกว่าภาษาชาวเขาอื่นๆภาษาเขียน
เมี่ยนได้รับอิทธิพลจากจีนมาก เป็นคำเดียวโดดๆไม่มีีภาษาเขียนเป็นของตนเอง(ขจัดภัย
2538, น.50) เมี่ยนที่อยู่ในเมืองไทยส่วนใหญ่พูดภาษาไทยเหนือหรือคำเมืองพอรู้เรื่องบางคนพูดภาษาไทยกลางได้คนที่มีอายุพูดภาษาจีนกลางและจีนฮ่อได้ (ขจัดภัย 2538, น.50)
ผู้ชายชาวเมี่ยนมีคำนำหน้าว่า “เลา” ส่วนผู้หญิงมีคำนำหน้าว่า “อ่ำ”
บุตรชายคนแรกเรียก ต่อนโห หรือ ต่อนเก๊า ลูกสาวคนแรกเรียก อ่ำม๋วย (บุญช่วย 2506,
น.438) พวกเมี่ยนนิยมตั้งหมู่บ้านบนไหล่เขา
บริเวณต้นน้ำลำธารสูงประมาณ3,000-3,500ฟุต ซึ่งอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหมู่บ้านม้งและลีซอ
หมู่บ้านเมี่ยน มักมี ขนาดเล็กประมาณ 15 หลังคา เรือน มีการโยกย้ายหมู่บ้านบ่อย ๆ
ในช่วงเวลา 10-15 ปี แต่บางแห่งตั้งอยู่อย่างถาวร
ในหมู่บ้านเมี่ยนจะเอากระบอกไม้ไผ่ผ่าครึ่งทำเป็นท่อหรือรางน้ำเพื่อรองน้ำจากลำธารมาใช้ภายในหมู่บ้านได้
ชาว เมี่ยนปลูกบ้านคร่อมดินใช้พื้นดินเป็นพื้นบ้าน บ้านมีลักษณะรูป
สี่เหลี่ยมผืนผ้ามุงหลังคา ด้วยหญ้าคาหรือใบหวายฝาบ้านทำจากไม้เนื้ออ่อนที่ผ่าด้วยขวานและลิ่มถากให้เรียบกั้นฝาในแนวตั้ง
บางหลังใช้ไม้ไผ่ หรือฟางข้าวผสมดิน โคลนก่อเป็นกำแพงเป็นฝาผนัง
ถ้ามีสมาชิกหลายคนจะแบ่งเป็นห้อง ๆ หน้าบ้านมี ีประตูเรียกว่า ประตูผี ประตูนี้จะ
เปิดใช้เมื่อส่งตัวบุตรสาวออกไปแต่งงาน หรือนำลูกสะใภ้เข้าบ้าน
และใช้เวลายกศพออกจากบ้าน ตรงกับประตูหน้า จะมีหิ้งผีติดข้างฝาเรียกว่า
“เมี้ยนป้าย” เป็นที่สิงสถิตของผีบรรพบุรุษ บางบ้านมีหิ้งผีอีกแบบหนึ่งเรียกว่า
“เมี้ยน เตี่ย หลง” (ขจัดภัย 2538, น.53) เมี่ยนที่มีฐานะอาจสร้างบ้านยกพื้นมุงหลังคากระเบื้องหรือสังกะสีกั้นฝาและปูพื้นด้วยไม้กระดาน บางแห่งนิยมสร้างยุ้งข้าวโพดไว้หน้าบ้านเมี่ยนไม่มีหัวหน้าเผ่ามีแต่หัวหน้าที่ได้รับการคัดเลือก มาจากผู้ อาวุโสของหมู่บ้านหรือได้รับแต่งตั้งจากทางการผู้ที่เป็นหัวหน้าต้องมีความรู้ความสามารถทำหน้าที่ตัดสินข้อ พิพาทต่าง ๆ
รับเชิญไปในพิธีกรรมต่าง ๆ และติดต่อกับทางราชการ (ขจัดภัย 2538, น.56)
ครอบครัวของเมี่ยนมีทั้งครอบครัวเดี่ยวและขยายถ้าเป็นครอบครัวขยายนิยมขยายทางฝ่ายชาย ในทัศนะของเมี่ยน คำว่า ญาติพี่น้อง
นอกจากจะหมายถึงญาติพี่น้องทาง สายโลหิตแล้ว ยังรวมถึงชนชาติอื่นๆ
ที่เข้ามารวมอยู่ในชุมชนของชาวเมี่ยนด้วย ในเรื่องญาติพี่น้องของเมี่ยนนั้น
มิได้หมายถึงความเกี่ยวพันทางสายโลหิตดังที่เข้าใจกัน แต่
เกี่ยวพันกันในทางวิญญาณของบรรพบุรุษ
เมี่ยนเชื่อว่าเด็กที่เกิดมานั้นเป็นผลผลิตของ
ความร่วมมือระหว่างวิญญาณหญิงชายของบรรพบุรุษ ได้มอบวิญญาณเด็ก ให้แก่บิดา มารดา
ซึ่งเป็นผู้สร้างร่างกายเด็กและเลี้ยงดูให้เติบโต บุคคลหนึ่ง
บุคคลใดจะยังไม่ได้เป็นชาวเมี่ยนโดยสมบูรณ์จนกว่าจะผ่านพิธีกรรมรับเข้าเป็นสมาชิก
โดยการแนะนำตัวต่อ วิญญาณบรรพบุรุษ หลังจากมีอายุครบ 12 ปีบริบูรณ์ (ขจัดภัย 2538, น.61)
ชาวเมี่ยนมีอิสระเสรีในการเลือกคู่ครอง โดยไม่มีการบังคับกัน
เมี่ยนมีประเพณีเที่ยวสาว ซึ่งชาวเมี่ยนได้ยึดถือปฏิบัติมาจนทุกวันนี้ การเที่ยว
สาวนั้นไม่ได้มีเพียงการพูดจาเกี้ยว พาราสีเท่านั้น
แต่เมื่อหญิงสาวชาวเมี่ยนพอใจหนุ่มคนใดเป็นพิเศษ
ก็อาจจะร่วมหลับนอนกับชายคนนั้นได้ภาย ในห้องนอนของตนเอง (ขจัดภัย 2538, น.61) การแต่งงานของ เมี่ยนมี 2 แบบคือ
การแต่งงานเล็ก และการแต่งงานใหญ่ การแต่งงานเล็กกระทำที่บ้านผู้หญิง ส่วนการแต่งงานใหญ่จัดที่บ้านผู้ชาย
มีการกินเลี้ยง 3 วัน 3 คืน ชาวเมี่ยนไม่นิยม แต่งงานกับคนแซ่เดียวกัน
และไม่ห้ามการมีภรรยาหลายคน โดยถือหลักว่า
ถ้ามีภรรยาคนเดียวไม่สามารถทำมาหาเลี้ยงชีพได้เพียงพอ
ก็ต้องหาภรรยาน้อยเพื่อมาช่วยทำงาน ครอบครัวเมี่ยนมักไม่ค่อยมีการหย่า ร้าง
ถ้าผู้หญิงมีชู้ ชายชู้ต้องเสียค่าปรับให้สามีเก่า
การมีชู้เป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเมี่ยน (ขจัดภัย 2538, น.63)
ผู้ชายชาวเมี่ยนมีศักดิ์เหนือกว่าสตรีและเด็กในครอบครัว เวลากินอาหาร
จะจัดให้ผู้ชายก่อน สตรีและเด็กจะมากินทีหลัง ภรรยาต้องเคารพสามี ตื่นก่อนนอนทีหลัง
(พอลและลูวิส 2528, น.151)
ชาวเมี่ยนทำมาหากินโดยการทำไร่เลื่อนลอย พืชหลักที่ปลูกได้แก่ ฝิ่น
ข้าว ข้าวโพด มันฝรั่ง พริก ฝ้าย มันเทศ เป็นต้น ไร่ข้าวของเมี่ยนจะไม่
่มีต้นไม้ใหญ่เหมือนพวกกะเหรี่ยง
ไร่ข้าวจะอยู่รอบหมู่บ้านในรัศมีเดินไม่เกินสองชั่วโมง ฤดูปลูกข้าว
เริ่มปลูกปลายเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน
ข้าวที่เกี่ยวและนวดแล้วจะเก็บไว้ในยุ้งในไร่ ไม่นิยมนำกลับมาบ้าน
นอกจากเพาะปลูกแล้ว ชาวเมี่ยนยังเลี้ยงสัตว์ เช่น ม้า หมูและไก่ ม้าใช้สำหรับขี่
ี่เดินทางหรือต่างของ หมูและไก่เลี้ยงไว้เพื่อเซ่นสังเวยผีในพิธีกรรม (ขจัดภัย
2538, น.59) ชาวเมี่ยนยังมีฝีมือในการทำเครื่องประดับเครื่องเงิน
เย็บปักถักร้อย ทำมีด จอบ ขวาน เคียว เป็นต้น
เมี่ยนเชื่อว่า
เงินเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จทั้งในโลกมนุษย์และโลกของวิญญาณ กล่าวคือ
ชาวเมี่ยนเชื่อว่าในขณะที่มีชีวิตในโลกมนุษย์
ถ้าหากได้จ่ายเงินเพื่อทำบุญอย่างเพียงพอ แล้ว เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะได้รับการเคารพนับถือจากดวงวิญญาณทั้งหลาย
และอาศัยอยู่ในโลก วิญญาณอย่างมีความสุข (ขจัดภัย 2538, น.64) ผู้ที่ได้รับการนับถือในสังคม เมี่ยนต้องมี
ลักษณะอยู่ 3 ประการ คือ มีฐานะการเงินดี มีความเฉลียวฉลาด และมีความเมตตากรุณา
เมี่ยนมีการนับถือผี
พวกเขาเชื่อว่าทุกหนทุกแห่งมีผีสิงสถิตอยู่ทั้งนั้น เช่น ผีภูเขา ผีต้นไม้ ผีบ้าน
ผีป่า ผีมี 2 พวกคือ ผีดีและผีร้าย ผีดี ได้แก่ ผีบนสวรรค์หรือท้องฟ้า
ผีร้ายอาศัยอยู่ ูตามต้นไม้ในป่า ตามแอ่งน้ำ ลำธาร
นอกจากนั้นเย้ายังนับถือผีอีกพวกหนึ่งซึ่งมีความสำคัญสูงสุด คือ ผีใหญ่หรือ
“จุ๊ซัง เมี้ยน” มี 18 ตนด้วยกัน มีอำนาจลดหลั่นกันเป็นลำดับ ผีที่มี
อำนาจสูงสุดมี 3 ตนด้วยกัน คือ สามด๋าวหรือฟามชิ้ง (ขจัดภัย 2538, น.65) หมอผีของชาวเมี่ยนเรียกว่า“ซิมเมี้ยนเมียน”
ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ และรักษาโรค ชาว เมี่ยนเชื่อว่าร่างกายคนมีขวัญทั้งหมด
11 ขวัญ ขวัญเหล่านี้ชอบออกไปจากร่างกายเมื่อเจ็บป่วยได้รับอันตรายหรือตกอกตกใจ
แล้วผีร้ายจะเข้ามาสิงสู่แทน หมอผีจะเป็นผู้ประกอบ พิธีเรียกขวัญ และเชิญผีครู
ผีบรรพบุรุษ และผีสามด๋าว มาช่วยในการเรียกขวัญด้วย (ขจัดภัย 2538, น.66 และบุญช่วย 2506, น.472-473)
การแต่งกายของชาวเมี่ยน ผู้หญิงนุ่งกางเกงด้วยผ้าสีน้ำเงินปนดำ
ด้านหน้าจะปักลวดลาย ใส่เสื้อคลุมสีดำยาวถึงข้อเท้า
ผ่าด้านหน้าตลอดติดไหมพรมสีแดงที่อกเสื้อรอบคอลงมาถึง หน้าท้อง ผ่าด้านข้าง
อกเสื้อกลัดติดด้วยแผ่นเงินสี่เหลี่ยม ทาผมด้วยขี้ผึ้ง พันด้วยผ้าสีแดง
และพันทับด้วย ผ้าสี น้ำเงินปนดำ ส่วนผู้ชายนุ่งกางเกงสีดำขายาว ขลิบขอบขากางเกง
ด้วยไหมสีแดง สวมเสื้อดำ อกไขว้แบบเสื้อคนจีน
ติดกระดุมคอและรักแร้เป็นแนวลงไปถึงเอว เสื้อยาวคลุมเอว
ปัจจุบันชาวเมี่ยนเริ่มแต่งกายคล้ายคนไทยพื้นราบมากขึ้น (ขจัดภัย 2538, น.55) อาวุธของเมี่ยนได้แก่ ปืนคาบศิลา ทำเอง
ใช้คันร่มเป็นลำกล้องปืน (บุญช่วย 2506, น.445)