เสื้อผ้าจากตำนานที่บันทึกไว้ในหนังสือเดินทางข้ามเขตภูเขา [เกีย เซ็น ป๊อง] ที่เมี่ยนได้คัดลอกกันต่อ ๆ มาจนถึงทุกวันนี้ ระบุให้ลูกหลานเมี่ยน ปกปิดร่างกายของผันหู ผู้ให้กำเนิดเมี่ยน โดยใช้เสื้อลายห้าสีคลุมร่าง เข็มขัดรัดเอวผ้าเช็ดหน้าลายดอกไม้ผูกที่หน้าผาก กางเกงลายปิดก้น ผ้าลายสองผืนปิดที่ขา เชื่อกันว่าจากตำนานนี้เองทำให้เมี่ยนใช้เสื้อ ผ้าคาดเอวผ้าโพกศีรษะ และกางเกงที่ปักด้วยห้าสี
สมัยก่อนเมี่ยนการคมนาคมการค้าขายยังไปไม่ถึงบนดอย ส่วนใหญ่เมี่ยนนิยมใช้สีปักลาย เพียง 5 สีเท่านั้น คือสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงินสีเขียวและสีขาวในช่วงสองทศวรรษ ที่ผ่านมานี้เมี่ยนนิยม ปักลายผ้าเพิ่มมากขึ้นและใช้สีต่างๆเพิ่มขึ้นมากอีกด้วยการปักลายและการใช้ สีสันในการปักลายใน แต่ละท้องถิ่นจะแตกต่างกันบ้างตามความนิยมของแต่ละท้องถิ่น การปักลายเสื้อผ้าทุกวัน นี้หญิงเมี่ยน ก็ยังคงแต่งกายตามแบบฉบับที่ระบุไว้ในตำนานได้อย่างเคร่งครัด ผ้าที่เมี่ยนนำมา ปักลายเป็นผ้าทอมือ กล่าวกันว่าเมี่ยนเคยทอผ้าใช้เอง แต่เมื่ออพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทย แล้วค้นพบว่าผ้าทอมือของ ไทลื้อที่มี
ถิ่นฐานอยู่ในประเทศพม่า และประเทศไทยเหมาะ แก่การปักลายจึงได้ซื้อผ้าทอมือ ของไทลื้อมาย้อมและปักลายจนกลายเป็นความนิยมของเมี่ยนไป
เมี่ยนมีลักษณะการแต่งกาย การใช้สีสัน จะแตกต่างกันบ้างเพียงเล็กน้อย เมื่อแต่งกายตามจารีตประเพณีก็พอจะทราบได้ว่ามีถิ่นฐานอยู่ในท้องที่ใด หรืออยู่ในกลุ่มใด แต่มีบ้างที่กลุ่มที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกันจะมีการลอกเลียนแบบซึ่งกันและกันบ้างการปักลายเมี่ยนจะจับผ้า และจับเข็มแตกต่างกับเผ่าอื่น ๆ เมี่ยนจะปักผ้าจากด้านหลังผ้าขึ้นมา
ยังด้านหน้าของผ้าเมี่ยนจึงต้องจับผ้าให้ด้านหน้าคว่ำลง เมื่อปักเสร็จแต่ละแถวแล้วก็จะม้วน และใช้ผ้าห่อไว้อีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกต่าง ๆ การปักลายเสื้อผ้าเพื่อใช้ทำเป็นเครื่องแต่งกาย และของใช้ตามจารีตประเพณี เมี่ยนมีวิธีการปักลาย สี่ แบบคือ การปักลายเส้น [กิ่ว กิ่ว] การปักลายขัด [โฉ่ง เกียม] การปักลายแบบกากบาท [โฉ่ง ทิว] และการปักไขว้ [โฉ่ง ดับ ยับ]
การเรียกชื่อลายปัก ในการปักลายสตรีเมี่ยนจะต้องจดจำชื่อ และวิธี
การปักลายไปพร้อม ๆ กัน สำหรับการปักลายขัด [โฉ่ง เกียม] และลายกากบาท [โฉ่ง ทิว] ส่วนใหญ่จะเป็นลายเก่าที่ชื่อเรียกเหมือนกัน แต่สำหรับลายไขว้ [โฉ่ง ดับ ยับ] นั้น เมี่ยนอาจนำลักษณะเด่นของแต่ละลายปักเดิมมาปรับปรุง หรือปักเพิ่มเติมให้ลายปักใหม่อีกลายหนึ่ง และให้สีสันสวยงามตามใจตนเองชอบ โดยอาจตั้งชื่อใหม่ก็ได้ นอกจากนี้สตรีเมี่ยนบางคนที่มีความเฉลียวฉลาดอาจประดิษฐ์ลายปักใหม่ ๆ ขึ้นมาโดยการนำ ส่วนประกอบของลายต่าง ๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน หรือดัดแปลงเป็นลายปักใหม่แล้วตั้งชื่อเรียกใหม่ แต่โดยทั่วไปแล้วจะเรียกชื่อที่คงลักษณะเด่นของลายเดิม เช่น ลายปักหมวกขององค์ผู้บริสุทธิ์ทั้งสาม [ฟามกุน] เป็นลายที่ปรับปรุงมาจากลายฟามซิง บางครั้งลายปักแบบปักไขว้แต่ละลายนี้มีลายละเอียดแตกต่างกันไป บางหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่ แต่ละกลุ่มอาจเรียกชื่อที่แตกต่างกันด้วย และ
บ่อยครั้งพบว่าเมี่ยนเรียกชื่ออย่างเดียวกัน แต่เป็นลายปักแตกต่างกันก็มี แต่อย่างไรก็ตามชื่อลายปักที่เมี่ยนเรียกกันจะมีความหมายที่
สัมพันธ์ หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ คือ ความเชื่อ วิธีการปักลาย พืชผลทางการเกษตร
ถึง แม้เมี่ยนจะปักลายตามความเชื่อนี้ แต่เมี่ยนไม่ได้ถือว่าลายปักนั้น เป็นเครื่องลางของขลังหรือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ การปักลายจึงเน้น ที่ความสวยงามมากกว่าที่จะเป็นเครื่องลางของขลัง นอกจากนี้เมี่ยนยังเชื่อว่ากางเกงของผู้หญิง เป็นของต่ำไม่สมควรที่จะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่อาจเป็นไปได้ที่ว่าเมี่ยนต้องการแสดงให้เห็นว่า เมี่ยนเป็นกลุ่มที่มีความเชื่อในเรื่องเทพยดา
เมื่อท่านเข้ามาอ่านแล้วอย่าลืมเข้ามากดไลน์แฟนเพจ >>>วิถีชีวิตแห่งอิ้วเมี่ยนLifestyle or Style of Life
.