ชนเผ่าเย้าเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรมากเป็นอันดับ9ในจำนวน54ชนเผ่าในเวียดนามคือกว่า1ล้านคนโดยได้ตั้งหลักแหล่งอาศัยตามหมู่บ้านเขตเขาต่างๆทางภาคเหนือเช่นที่จังหวัดกาวบั่งห่ายางลาวกายเอียนบ๊ายลายเจาเตวียนกวางรวมไปถึงท้องถิ่นในเขตภูดอยบางแห่งคือฟู๊เถาะหวิงฟุกและหว่าบิ่ง
ชนเผ่าเย้าในเวียดนามอาศัยส่วนใหญ่ในภาคเหนือซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ก็เริ่มมีกลุ่มเล็กๆย้ายไปตั้งหลักแหล่งอาศัยในเขตเตยเงวียนซึ่งชนเผ่าเย้าแบ่งเป็นหลายกลุ่มที่มีชื่อเรียกตามประเพณีการดำเนินชีวิตการแต่งกายและเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละเขตเช่นเย้าแดงเย้าก่วนจาดเย้าลอกาเย้าเตี่ยนเย้าก่วนตรั้งเย้าแทงอีหรือเย้าหล่านแต้นเป็นต้นโดยสิ่งที่ช่วยแยกแยะกันว่านี่คือเผ่าเย้ากลุ่มไหนก็จากเสื้อผ้และประเพณีในการดำเนินชีวิตดร.หวอมายเฟืองจากพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์เผยว่า“กลุ่มเย้าแดงจะมีชุดแต่งกายที่โดดเด่นด้วยสีแดงตั้งแต่เสื้อกางเกงผ้าคาดเอวและผ้าคลุมศีรษะส่วนกลุ่มเย้าเตี่ยนเป็นกลุ่มเดียวที่ใส่กระโปรงและเสื้อผ้ามีการย้อมลายด้วยขี้ผึ้งโดยใช้ลายเหรียญกษาปณ์เป็นหลักสำหรับกลุ่มเย้าก่วนจาดสตรีจะโกนผมและทาสีแล้วคลุมด้วยผ้า
หรือถ้าสังเกตุชาวเย้าขาวก็จะเห็นพวกเขาใส่กางเกงสีขาวล้วน”
ปัจจุบันนี้ชนเผ่าเย้าถือเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ยังคงอนุรักษ์เอกลักษณ์เฉพาะได้อย่างเด่นชัดซึ่งสะท้อนให้เห็นจากทั้งเครื่องแต่งกายและภาษาพูดโดยถึงแม้จะแบ่งเป็นหลายกลุ่มแต่ก็ใช้ภาษาเดียวกันซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันธ์ระหว่างชุมชนชาวเย้าในท้องถิ่นต่างๆนอกจากนั้นวิธีชีวิตของชาวเย้าก็ยังดำเนินไปเฉพาะในขอบเขตชุมชนของชนเผ่าตนเท่านั้นและสะท้อนให้เห็นจากประเพณีต่างๆโดยเฉพาะการแต่งงานที่เน้นแต่งกับคนในชุมชนเผ่าเดียวเพื่อรักษาวัฒนธรรมและภาษาของตนวัฒนธรรมด้านจิตวิญญาณก็เป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งในชีวิตของชนเผ่าเย้าที่สะท้อนให้เห็นจากพิธีการเซ่นไหว้ต่างๆ“การประกอบอาชีพหมอผีถือว่ามีบทบาทสำคัญในชีวิตสังคมของชุมชนชาวเย้าหากใครสืบทอดอาชีพนี้จะต้องอ่านและเขียนภาษาเย้าได้ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในวิธีการสืบทอดวัฒนธรรมการเขียนและอ่านภาษาแม่
ส่วนในแต่ละปีชาวเย้าก็มีงานเทศกาลสำคัญหลายงานที่คนเข้าร่วมต้องร้องเพลงโต้ตอบด้วยภาษาชนเผ่าดังนั้นการสืบทอดอาชีพรุ่นสู่รุ่นก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีการอนุรักษ์ภาษาของชนเผ่าตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สาวชนเผ่าเย้าแดงเพื่อให้ภาษาเย้าได้รับการสานต่อและพัฒนาในชุมชนเผ่าเย้า
ผู้สูงอายุในหมู่บ้านได้พยายามสอนลูกหลานให้รู้จักการเขียนและอ่านหนังสือภาษาเย้าโบราณ
ซึ่งเป็นมรดกที่บ้านไหนก็มี
กลุ่มเย้าเหาะเป็นชุมชนที่อาศัยใกล้เขตที่ราบและมีการพบปะสนทนากับชนเผ่าอื่นๆเป็นประจำและพวกเขายังสามารถเข้าใจและพูดภาษาของชนเผ่าอื่นได้แต่ถึงอย่างไรก็ดี
การอนุรักษ์ภาษาของชนเผ่าตนยังคงได้รับการส่งเสริมในชุมชนต่อไป นาย บ่านวันซางกลุ่มเย้าเหาะ ที่ต.เซินห่า อ.บ๋าวทั้งจังหวัดลาวกายเผยว่า“ลูกหลานในตระกูลเราจะแต่งงานกับชาวเย้าเท่านั้นซึ่งแม้ในการสังสรรค์ชุมชนเราพูดภาษากลางแต่ในครอบครัวยังคงใช้ภาษาเย้าในหมู่บ้านจะมีการสอนภาษาเย้าให้แก่ชนรุ่นใหม่ซึ่งมีคนสนใจมาเรียนจำนวนมากเราใช้หนังสือภาษาเย้าโบราณเช่นเรื่องสั้นเรื่องประเพณีหรือเรื่องเกี่ยวกับศาสนาเพื่อเป็นหลักสูตรการสอน”
ปัจจุบันสังคมกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมของชนกลุ่มน้อยต่างๆก็ได้รับผลกระทบแต่สำหรับชนเผ่าเย้าเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่หลากหลายยังคงได้รับการอนุรักษ์และพัฒนาต่อไปในชีวิตสังคมอย่างสมบูรณ์อันเป็นการมีส่วนร่วมในภารกิจการอนุรักษ์และพัฒนาคุณค่าวัฒนธรรมของประชาคม54ชนเผ่าพี่น้องในเวียดนาม./.